หรืออุปกรณ์พัฒนาฝึกสมองให้กับลูก เราจะซื้ออะไรดี
หนูดีมักเจอคำถามแบบนี้บ่อย อาจจะไม่ได้ตั้งงบมาให้
“จะซื้อของเล่นอะไรให้ลูกดี ลูกถึงจะเป็นอัจฉริยะ”
อันดับแรกเราคงต้องย้อนกลับไปดูนิยามคำว่า `อัจฉริยะ´
เพราะเราแต่ละคนมีนิยามคำนี้ไม่เหมือนกันแน่ ๆ
สำหรับหนูดีเอง คำนิยามนั้นอยู่ในหนังสือ “อัจฉริยะสร้างได้” นั่นก็คือ…
`อัจฉริยภาพ´ของคนมีหลายด้านและทุกคนมีแล้วในตัว
มันซ่อนอยู่และไม่โชว์ตัวออกมาเป็นศักยภาพที่จับต้องได้เสียที
ตรงนี้ล่ะที่พ่อแม่และโรงเรียนจะต้องมีบทบาท
ให้กับโลกภายนอกมองเห็นได้
แต่สำหรับหนูดีแล้ว เหนือสิ่งอื่นใด “อัจฉริยภาพ” คือ
ปัญหาระดับเด็ก ๆ ที่แย่งของเล่นกัน หรือปัญหาระดับชาติ
สิ่งนี้พัฒนาไปตามวัย และปัญหาก็ยากง่ายซับซ้อนขึ้นไปตามอายุของเราที่โตขึ้นมา
ดังนั้น การเลือกของเล่นพัฒนาสมอง มีกฎหลัก ๆ 3 ข้อ…
::::::::::::::::::
1. พ่อแม่ คือของเล่นราคาแพงที่สุดของลูก
2. ของเล่นต้อง “ไม่คิดมาให้เด็กแล้วทั้งหมด” นั่นก็คือ
เด็กไม่ต้องคิด ไม่ต้องทำอะไรเลย แค่เล่นไปให้จบตามที่คนออกแบบของเล่นกำหนดไว้ ก็เพียงพอแล้ว
อันนี้ ไม่สนับสนุน เพราะจะเป็นการฝึกให้ลูกเราไม่ต้องคิด ฝึกให้เป็นผู้ตามอย่างเดียว ของเล่นมันสร้างสรรค์เกินจนกลายเป็นผู้นำของเด็กโดยไม่เจตนา
สังเกตว่า ของเล่นแพง ๆ มักอยู่ในกลุ่มนี้ แถมมักจะเป็นกลุ่มเสียบปลั๊กใช้ไฟฟ้าด้วย เช่น เกมวิดีโอต่าง ๆ หรือเกมที่มีการเริ่มต้น กลาง จบที่ชัดเจน
3. ระลึกไว้เสมอว่า ของเล่นที่ดีคือ “เป็นของเล่นแค่ 10% ส่วนอีก 90% ต้องเป็นจินตนาการของลูก”
เพราะจะฝึกให้เด็กได้ออกแบบวิธีเล่นเอง คิดและสร้างสรรค์เอง
ลังกระดาษเปล่า ๆ ฯลฯ
หรือถ้าจะเล่นให้หรูขึ้นมาหน่อย ก็คือ
แต่ให้เขาสร้างเพิ่มไปเรื่อย ๆ
ไม้บล็อคช่วยสร้างกระบวนการคิดหลายอย่าง
โดยเฉพาะเรื่องรูปทรงและปริมาตรเร็วมากจนน่าทึ่ง
อีกสิ่งที่เล่นได้ดีไม่แพ้บล็อคคือ เลโก้
เพราะกล้ามเนื้อมือยังไม่แข็งแรง
ดังนั้น มีบล็อคและเลโก้เท่านั้น
ของเล่นที่น่าเลือกลงทุน
นี่คือ คำแนะนำสำหรับเด็กเล็กในวัยอนุบาล
ไม่ควรให้เด็กมาเล่นเกมในมือถือของพ่อแม่
อย่าเห็นว่าน่ารักหากลูกวัยอนุบาลรับมือกับหน้าจอเป็น
“สามมิติ” คือ จับต้องได้ มีรูปทรง ไม่ใช่ของในหน้าจอ
ส่วนวัยพี่ประถมนั้น หากมีงบ 1 หมื่น
แต่การอ่านหนังสือจากหน้าจอนั้นทำร้ายดวงตากว่าที่เราคิด
แม้จะมีการโฆษณาว่า หน้าจอรุ่นใหม่ถนอมสายตาอย่างไรก็ตาม
เพราะไม่อยากเป็นหนูทดลอง
วันนี้ หากเราเป็นพ่อแม่วัยอนุบาล
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : วนิษา เรซ | คอลัมน์ ฉลาดสุขกับหนูดี – กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
